การดูทีวีมีผลกระทบต่อการพัฒนาการลูกอย่างคาดไม่ถึง จากผลวิจัยล้วนยืนยันถึงผลเสียที่เกิดขึ้น เช่น นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทมเปิ้ล และเดลาแวร์ ใช้ภาพเสียงตัวอย่างจากรายการ Sesame Beginning สำหรับเด็กวัย 2ขวบครึ่งถึง 3 ขวบครึ่ง เสริมการเรียนรู้คำกริยาพบว่าหากพ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วยเด็กจะไม่สามารถเรียนรู้ ทำความเข้าใจได้เอง แต่ถ้าพ่อแม่อยู่ด้วยกันช่วยพูดอธิบายให้ฟัง เด็กจะเข้าใจและเรียนรู้ได้ถูกต้อง
ทีวีทำให้พ่อแม่ลูก สื่อสารกันน้อยลง
นักวิจัยยังพบว่าบ้านที่เปิดทีวีทิ้งไว้แม้ไม่ได้ดู จะทำให้สมาชิกในบ้านสื่อสารกันน้อยลงถึง 20% และไม่แสดงความกระตือรือร้นที่จะสนทนากับลูกด้วย ทั้งยังมีการตอบสนองต่อความต้องการของลูกน้อยลง โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแมสซาชูเสทท์ สหรัฐฯ กล่าวว่าพ่อแม่ควรให้ความสำคัญในการใช้เวลาอยู่ใกล้ชิดลูก พูดจาสื่อสารกับลูก ๆ ให้มากขึ้น นอกจากจะได้รับความอบอุ่นในบ้านแล้ว ยังมีส่วนช่วยพัฒนาทักษะต่าง ๆ ของลูก ไม่ว่าทักษะการสื่อสาร การใช้ภาษา การแสดงออกและกล้าแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันด้วย
อ้วนมากขึ้นเพราะทีวีในห้องนอน
ยังมีการศึกษาจากนักวิจัย มหาวิทยาลัยกลาสโกลว์ ประเทศอังกฤษ พบว่าสาเหตุหลักที่ทำให้เด็กมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคอ้วนคือ การนอนหลับน้อยกว่า 10.5 ชั่วโมงและดูทีวีเกิน 8 ชั่งโมง ต่อหนึ่งสัปดาห์ โดยเฉพาะเด็กที่มีทีวีดูในห้องนอน เนื่องจากเด็กเริ่มดูทีวีเมื่ออายุ 2 ขวบ จึงควรจำกัดเวลาดู งดตั้งทีวีในห้องนอนตั้งแต่วัย 1-4 ขวบ เด็กที่มีทีวีในห้องนอนจะดูทีวีหรือวีดีโอนานกว่าเด็กที่ไม่มีทีวีในห้องนอนสัปดาห์ละ 4.8 ชั่วโมง ซึ่งจะเสี่ยงต่อโรคอ้วนสูงกว่า
ดร.ไมเคิล ริช กุมารแพทย์ โรงพยาบาลเด็กในยอสตัน กล่าวว่าถึงแม้จะดูรายการที่วีที่ดี เช่น เซซามีสตรีท แต่เด็กก็ไม่ได้ทำกิจกรรม ไม่ได้เรียนรู้ด้วยตนเองนัก เพราะเด็กจะต้องใช้เวลาวิ่ง เล่น ต่อบล็อก ออกกำลัง มีสังคมกับพ่อแม่ คนรอบข้าง เพื่อพัฒนาร่างกาย อารมณ์ สังคม จิตใจ แต่ถ้าเด็กนั่งอยู่หน้าทีวีนานก็จะรับทุกสิ่งที่นำเสนอผ่านทีวี ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี มีงานวิจัยหลายชิ้นพบว่าเด็กโตที่ดูทีวีมาก ก่อให้เกิดนิสัยก้าวร้าว มีปัญหาทางอารมณ์รุนแรง และมักมีอารมณ์สงบเมื่อดูทีวีน้อยลง ส่วนสาเหตุที่ทำให้เด็กดูทีวีมาก มักมาจากทัศนคติของพ่อแม่ ถ้าอยู่ในเมืองที่ไม่อาจพาไปออกกำลังข้างนอน ไม่มีที่วิงเล่น การดูทีวีจึงเป็นการใช้เวลาว่าง โดยเฉพาะแม่ที่อยู่คนเดียว มีการศึกษาน้อย
อันตรายจากการเลียนแบบทีวี
การวิจัยพบว่ารายการทีวีในสหรัฐฯ มักแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ไม่ปลอดภัย ไม่คำนึงถึงผลที่ตามมาทำให้เด็กเรียนรู้พฤติกรรมที่ไม่ดี อาจทำให้เจ็บตัว มีอันตรายจนเสียชีวิตได้ ศูนย์วิจัยการบาดเจ็บในเด็กกว่าวว่าในทีวีจะเห็นภาพเด็ก ๆ วิ่งเล่นบนท้องถนนโดยไม่เคยถูกรถชน ขี่จักรยานเล่นโดยไม่ใส่หมวกกันน็อก แต่ไม่เคยล้มศีรษะแตกเลือดออก จากการศึกษารายการทีวีพบว่า 47% แสดงพฤติกรรมที่เสี่ยงอันตราย เด็กลอกเลียนแบบได้กับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ขี่จักรยานโดยไม่ใส่หมวกกันน็อก ว่ายน้ำโดยไม่มีคนดูแล วิ่งข้ามถนนโดยไม่ดูรถซ้ายขวา ทำให้เด็กเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจมน้ำ รถจักรยานถูกชนล้มคว่ำ ส่วนการ์ตูนก็เช่นกัน ยังแสดงกิจกรรมที่ไม่ปลอดภัยโดยเฉพาะในเด็กที่อายุต่ำกว่า 7 ขวบ ซึ่งแยกแยะเรื่องจริงจากอันตรายที่สร้างขึ้นไม่ได้ ดร.ไมเคิลเสริมว่าพ่อแม่ควรนั่งดูพร้อมเด็ก คอยตรวจสอบว่าเด็กดูรายการทีวีอะไร เพื่อความปลอดภัยต่อเด็ก และความสุขต่อพ่อแม่ด้วย