"เริ่มศึกษาข้อมูลตั้งแต่ปี 2547 ค้นคว้าทางอินเตอร์เน็ตขอความรู้จากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขบ้าง จึงก่อสร้างโรงงานผลิต โดยไม่รู้ว่าต้องเจาะบ่อ เพื่อดึงน้ำขึ้นจากแหล่งกำเนิดก่อนไม่ใช่ว่านำน้ำจากลำธารหรือพื้นดินมาบรรจุได้เลย ซึ่งก็ถือเป็นความโชคดีเพราะจากการสำรวจพบว่า แหล่งน้ำใต้ดินนั้นอยู่ใกล้กับโรงงานนิดเดียว"
นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรีเพราะมีจุดประสงค์ต้องการอาบน้ำแร่ ให้อุ่นกายสบายใจ ฉะนั้นในช่วงลมหนาวโบกโชยเข้ามาเยือน จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเส้นทางสายนี้รถราขวักไขว่ ผู้คนหนาตากว่าฤดูกาลอื่นๆ
น้ำแร่ธรรมชาติถือเป็นจุดดึงดูดใจให้เหล่านักท่องเที่ยวผู้รักสุขภาพหลั่งไหลเยี่ยมเยือนมิได้ขาด ด้วยเพราะเชื่อในคุณสมบัติของแร่ธาตุต่างๆอันนำมาซึ่งประโยชน์ต่อร่างกาย
อาบน้ำแร่ ผ่อนคลายสบายตัวแล้วหากให้ครบถ้วนสมบูรณ์แบบ ควรดื่มน้ำแร่ธรรมชาติควบคู่ สำหรับผู้รักสุขภาพแต่หากมิได้นำติดตัวมา ณ ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง แห่งนี้มีน้ำแร่รสอร่อย อุดมด้วยแร่ธาตุ ไว้ให้ซื้อหามาดื่ม ภายใต้ยี่ห้อ"น้ำแร่ธรรมชาติสวนผึ้ง"
พบแหล่งน้ำแร่
ศึกษาหาข้อมูล
ผู้ประกอบการหญิงคนขยัน วัย 38 ปี คุณลั่นทม โมนยะกุล หนึ่งในเจ้าของบริษัทพีพี โมน มิเนเร่ จำกัด ผู้ผลิตจำหน่ายน้ำดื่ม ภายใต้ยี่ห้อน้ำแร่ธรรมชาติสวนผึ้ง เกริ่นกล่าวความเป็นมาโดยเท้าความไปเมื่อหลายสิบปีก่อนว่า แหล่งน้ำแร่แห่งนี้ถูกค้นพบโดยคุณประยูร บิดาคุณพสิษฐ์ โมนยะกุล ผู้เป็นสามีโดยขณะนั้นคุณประยูรประกอบกิจการเหมืองแร่
กระทั่งต่อมาในรุ่นลูกได้เปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีผู้คนจำนวนมากเดินทางเข้าชมและยังหอบหิ้วภาชนะบรรจุน้ำแร่กลับบ้าน ด้วยเหตุนี้ คุณพสิษฐ์ และภรรยาจึงคิดช่องทางสร้างธุรกิจนำน้ำแร่จากบ่อธรรมชาติซึ่งอยู่ในพื้นที่ ของตนเองมาผ่านกระบวนการบรรจุจัดจำหน่ายอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน
"เริ่มศึกษาข้อมูลตั้งแต่ปี 2547 ค้นคว้าทางอินเตอร์เน็ตขอความรู้จากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขบ้าง จึงก่อสร้างโรงงานผลิต โดยไม่รู้ว่าต้องเจาะบ่อ เพื่อดึงน้ำขึ้นจากแหล่งกำเนิดก่อนไม่ใช่ว่านำน้ำจากลำธารหรือพื้นดินมา บรรจุได้เลย ซึ่งก็ถือเป็นความโชคดีเพราะจากการสำรวจพบว่าแหล่งน้ำใต้ดินนั้นอยู่ใกล้กับ โรงงานนิดเดียว"
คุณลั่นทม เล่าถึงการสำรวจหาแหล่งน้ำว่า ก่อนอื่นต้องขออนุญาตขุดเจาะกับกรมทรัพยากรน้ำ จังหวัดราชบุรี โดยเสียค่าธรรมเนียมไม่มากแต่ในส่วนของค่าเจาะได้จัดจ้างบริษัทเอกชนแห่ง หนึ่ง ดำเนินการให้โดยเสียค่าใช้จ่ายบ่อละ 200,000 บาท รวมเครื่องปั๊มน้ำขึ้นจากบ่อ
หลังพบแหล่งน้ำแล้ว คุณลั่นทม ว่าต้องส่งตัวอย่างน้ำแร่ไปตรวจวิเคราะห์หาแร่ธาตุต่างๆที่กรมวิทยาศาสตร์ บริการ ตรงข้ามโรงพยาบาลรามาธิบดี และกรมวิทยาศาสตร์สาขาสมุทรสงคราม ซึ่งใช้ระยะเวลารอคอยประมาณ 3 เดือน จึงทราบผล
"การตรวจเป็นไปตามมาตรฐานน้ำแร่โลก ต้องไปรับขวดน็อคเชื้อจากห้องแล็บเพื่อนำมา บรรจุน้ำแร่ แล้วแช่ในถังน้ำแข็งเดินทางส่งไปตรวจให้ทันภายในระยะเวลา 12 ชั่วโมง ซึ่งการคิดค่าบริการตรวจจะคำนวณไปตามแร่ธาตุแต่ละชนิด โดยเบ็ดเสร็จค่าใช้จ่ายประมาณ 30,000 บาท"
หลังได้ผลตรวจยืนยันคุณภาพ เป็นที่เรียบร้อยแล้วคุณลั่นทมจึงเดินทางไปยื่นขอเครื่องหมาย อย. และ GMP นอกจากนั้นแล้วน้ำแร่ธรรมชาติสวนผึ้ง ยังได้รับคัดเลือกเข้าสู่สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ พร้อมจัดจำหน่ายในปี 2549
สำหรับตลาดส่งขายเน้นส่งรีสอร์ตในอำเภอสวนผึ้ง ซึ่งเป็นกิจการของพี่ชายคุณ พสิษฐ์จากนั้นกระจายตามจุดร้านค้า โรงพยาบาล โรงเรียนต่างๆ ในอำเภอสวนผึ้งอำเภอบ้านโป่ง อำเภอโพธาราม อำเภอดำเนินสะดวก และอำเภอเมืองจังหวัดราชบุรี รวมไปถึงจังหวัดใกล้เคียง สมุทรสงคราม อุทยาน ร. 2และกรุงเทพฯ
ในส่วนของรูปแบบการขาย ส่วนใหญ่ คุณลั่นทมและคุณพสิษฐ์จะเดินทางไปติดต่อลูกค้าด้วยตนเองแต่ทั้งนี้สำหรับ จังหวัดห่างไกลออกไป จะมีตัวแทนจำหน่าย ในจังหวัดปทุมธานีรับสินค้าไปกระจายตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะเขตกรุงเทพฯ
ดื่มแล้วติดใจ
ได้ลูกค้าบอกต่อ
"เรื่องขนส่ง คุณพสิษฐ์จะเป็นผู้ดูแล เพราะตัวดิฉันมีหน้าที่ประจำ เป็นครูสอนหนังสือ อยู่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งซึ่งเมื่อก่อนไม่คิดว่าจะก้าวสู่กิจการค้านี้ เพราะหลังศึกษาจบปริญญาตรีสาขาคอมพิวเตอร์ศึกษา จากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ได้แต่งงานแล้วยึดอาชีพเปิดฟาร์มโคเนื้ออยู่ราชบุรี แต่ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าใดนักทำอยู่ 3 ปี ตัดสินใจเลิก"
ในแต่ละเดือน บริษัท พีพี โมน มิเนเร่จำกัด จะมีรายได้จากการจำหน่ายน้ำดื่ม ภายใต้ยี่ห้อ น้ำแร่ธรรมชาติสวนผึ้งประมาณ 250,000 บาท หรือคิดเป็นกำไรประมาณ 30% โดยบรรจุขวด 2 ขนาด คือ1,500 มิลลิลิตร และขนาด 600 มิลลิลิตร กับราคาขายส่งแพ็กละ 48 บาทเท่ากัน แต่หากซื้อปลีกหน้าโรงงาน ราคาขยับขึ้นเล็กน้อย แพ็กละ 55 บาท
"ผลกำไรไม่มากนัก เพราะต้นทุนหลักคือค่าขนส่ง น้ำมันขึ้นราคาสูงมากแต่ถือเป็นความโชคดีอย่างหนึ่งคือ คู่แข่งไม่มีในพื้นที่เดียวกันเพราะการทำธุรกิจนี้สิ่งสำคัญคือแหล่งน้ำ ธรรมชาติ ไม่ได้หากันง่ายๆแต่ในตลาดโดยรวม ถือว่ามีแบรนด์ดังหลายรายครองตลาดอยู่ ซึ่งเราค่อยๆ เดินเลือกตลาดใกล้มือก่อน แล้วค่อยขยายฐานให้กว้างขึ้น"
คุณลั่นทมยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยรสชาติอร่อย อุดมไปด้วยแร่ธาตุ เมื่อลูกค้าโดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวผู้รักสุขภาพได้ลิ้มรส หลายคนติดใจส่งผลให้เกิดกระแสบอกต่อ นำพายอดขายขยับสูงขึ้น
สิ่งสำคัญอีกประการสามารถดึงดูดความสนใจกลุ่มผู้พบเห็น คือ ฉลากบรรจุภัณฑ์ โดดเด่นซึ่งคุณลั่นทม ว่า แต่ก่อนการออกแบบฉลากอาศัยความเรียบง่ายจึงไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก กระทั่งต่อมาปรับพัฒนาบรรจุภัณฑ์เน้นตัวหนังสือโดยเฉพาะยี่ห้อ ให้ใหญ่ขึ้น เพิ่มลูกเล่นตัวอักษรเห็นแล้วสะดุดตา น่าจับต้อง
อีกหนึ่งความสำคัญไม่ควรมองข้าม คือคุณภาพของน้ำดื่ม ก่อนนำมาบรรจุขวด ได้ผ่านเครื่องกรองระบบอัลตราฟิวเตชั่น ซึ่งมีไส้กรองละเอียดถึง 0.002 ไมครอนโดยแหล่งซื้อภายในประเทศ ราคาเครื่องละ 170,000 บาทหรือคิดรวมค่าติดตั้งเกือบ 200,000 บาท สามารถกรองน้ำได้ชั่วโมงละ 2,000ลิตร
"กำลังการผลิตของโรงงาน ณ ปัจจุบัน วันละ 800 แพ็กทั้งขวดเล็กขวดใหญ่ หรือคิดเป็นชั่วโมงละ 100 แพ็ก หรือประมาณ 9,600ขวดเล็ก ต่อวัน ตอนนี้ยอดขายยังไม่มาก ค่อยๆ ทำไปแต่หากวันใดยอดจำหน่ายสูงขึ้น สามารถเพิ่มไส้กรองเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตได้"
ขั้นตอนการผลิตไม่ยาก
น้ำดิบดี มีคุณภาพ
นอกจากกลุ่มผู้ซื้อส่วนใหญ่นำไปบริโภค ยังมีร้านอาหารญี่ปุ่นซึ่ง ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ เดินทางมาติดต่อขอซื้อน้ำแร่เพื่อนำไปผลิตเส้นราเม็ง โดยนำถังบรรจุขนาดใหญ่ประมาณ 20 ลิตรซึ่งคุณลั่นทมคิดราคาไว้ที่ 70 บาท
ถามถึงกระบวนการทำงานคุณลั่นทม ว่า ไม่ยุ่งยาก เพราะหลังจากปั๊มน้ำขึ้นมาใส่ถังบรรจุขนาดใหญ่พักไว้ 1 คืน จึงนำมากรอง แล้วบรรจุทันที "วิธีทำไม่มีอะไรซับซ้อนมันอยู่ที่แหล่งน้ำดิบ คุณภาพน้ำดิบ ซึ่งของเราไม่เป็นสองรองใครประการต่อมา สิ่งแวดล้อม คือรอบบริเวณใกล้บ่อน้ำ ไม่มีการทำเกษตรอันจะนำมาสู่สารเคมีปนเปื้อน
ส่วนกระบวนการผลิต ผ่านมาตรฐาน GMPซึ่งเมื่อผ่านเครื่องกรองสามารถบรรจุขายได้เลย แต่ห้ามเติมคลอรีนยาฆ่าเชื้อ โอโซน ต้องให้เป็นธรรมชาติจริงๆซึ่งแหล่งน้ำแร่ที่เราพบโดยรอบบริเวณนี้เป็นภูเขา หินแกรนิตทั้งหมดจึงทำให้น้ำใสสะอาด รสอร่อย ไม่กร่อย อุณหภูมิไม่ร้อนมากแต่ถ้าเป็นแหล่งหินภูเขาไฟ จะมีกำมะถัน อันนั้นร้อนมากขนาดต้มไข่สุกแต่ไม่สามารถทำน้ำดื่มได้ หรือหากทำต้องสกัดกำมะถันออกให้หมดซึ่งต้นทุนค่าใช้จ่ายสูงมาก"
ปัจจุบัน บริษัท พีพี โมน มิเนเร่จำกัด รับพนักงานเข้ามาช่วยฝ่ายผลิต และขนส่งราว 7 คน โดยเป็นคนในพื้นที่ซึ่งผลตอบแทนเป็นไปตามกฎหมายแรงงานกำหนด พร้อมสวัสดิการ
ย้อนถามถึงงบลงทุนกับกิจการนี้ คุณลั่นทม เผยว่า ประมาณ 3,000,000 บาทแต่เป็นการลงทุนที่ค่อยๆ ขยับปรับตามความสามารถของผู้ประกอบการซึ่งคาดว่าภายในระยะเวลา 5 ปี จะถึงจุดคุ้มทุน
"อนาคตต้องการให้สินค้าเข้าไปอยู่ในร้านสะดวกซื้อ และผลิตป้อนองค์กรหรือหน่วยงานต่างๆอันนี้เป็นความใฝ่ฝัน ซึ่งก็ยังไม่ทราบว่าต้องใช้ระยะเวลานานเท่าใดเพราะปัจจุบันเรามีคู่แข่งใน ท้องตลาดซึ่งเขาเป็นแบรนด์ดังที่ค่อนข้างแข็งแกร่งซึ่งตัวดิฉันเองไม่มีงบ ประมาณมากมายในการโฆษณา อาศัยแรงบอกต่อแบบปากต่อปากซึ่งก็ได้เอสเอ็มอี แบงก์ ช่วยอีกแรงหนึ่ง ในการประชาสัมพันธ์ซึ่งจากค่อยๆ ก้าวของเรา จนขณะนี้มีลูกค้าประมาณ 200 รายถือว่าพึงพอใจในระดับหนึ่งแล้ว"
ที่มา หมอชาวบ้าน